อีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจกับการไปท่องเที่ยวสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมและความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครอย่าง จอร์เจีย ประเทศที่มีบรรยากาศสวยงามโดดเด่นทั้งประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายรอให้คุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งแล้วจะรู้ว่าแดนสวรรค์บนโลกนั้นมีอยู่จริง รับรองว่าจะประทับใจไม่รู้ลืม

จอร์เจีย  หรือสาธารณรัฐจอร์เจียเป็นประเทศที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 2,500 ปี ตั้งอยู่บนรอยต่อจุดตัดระหว่างทวีปยุโรปกับทวีปเอเชีย ซึ่งเดิมที จอร์เจีย เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตมาก่อน และด้วยความที่ประเทศนี้ตั้งอยู่ระหว่างทวีปเอเชีย และทวีปยุโรปจึงมีการผสมผสานวัฒนธรรมของสองทวีปอย่างลงตัว โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมที่มีความเก่าแก่งดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีกลิ่นอายของความเป็นยุโรป นอกจากนี้ประเทศ จอร์เจีย ยังเป็นประเทศที่มีความสดใหม่ ธรรมชาติสวยงามตระการตา และยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยว ทำให้ประเทศนี้น่าไปเที่ยวเป็นอย่างมาก แถมนักท่องเที่ยวไทยไม่ต้องเสียเวลาขอวีซ่าให้ยุ่งยากก็สามารถเที่ยวในประเทศได้ยาว ๆ อย่างสบายใจนานถึง 365 วันเลยทีเดียว อีกทั้งค่าครองชีพก็อยู่ในระดับที่เอื้อมถึง ซึ่งสกุลเงินของประเทศ จอร์เจีย คือ จอร์เจียน ลารี (Georgian Lari) อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยอยู่ 1 ลารี จะมีค่าประมาณ 12-15 บาท

ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวก็มีมากมายทั้งแนวที่เป็นประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม รวมไปถึงธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ แม่น้ำ ภูเขารับรองได้เลยว่าคุณจะต้องหลงรักประเทศนี้ไปอีกนาน สำหรับสถานที่แรกเราอยากแนะนำว่าถ้ามาแล้วห้ามพลาดเลยก็คือ เทือกเขาคอเคซัส เป็นเทือกเขาสูงพรมแดนกั้นระหว่างทวีปเอเชียกับยุโรป ซึ่งมีความสวยงามราวกับเทพนิยายที่มีทุ่งหญ้าสีเขียวขจีตัดกับลำธารสีฟ้าใส รับกับฉากหลังที่เป็นไอหมอกและภูเขาหิมะให้คุณได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของวิวทิวทัศน์และบรรยากาศอันยิ่งใหญ่สุดแสนตระการตา เมื่อมาถึงที่นี่แล้วอย่าลืมแวะไปที่หมู่บ้าน Ushguli หมู่บ้านมรดกโลกบนเทือกเขาคอเคซัส มีบ้านเรือนเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยังใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายและรักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมไว้ มาที่นี่รับรองเลยว่าจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตคนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดแน่นอน หรืออาจจะไปกางเต็นท์สัมผัสธรรมชาติที่หมู่บ้านจูทา (Juta) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเพราะตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณราว ๆ 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล วิวและบรรยากาศที่นี่ก็สวยงามไม่น้อยที่เดียว ส่วนใครที่ชอบกิจกรรมโลดโผนก็มีสกีรีสอร์ทหลากหลายแห่งที่มีลานสกีขนาดใหญ่รอให้ได้ไประเบิดความมันความสนุกกันอย่างจุใจพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันบนเทือกเขาแห่งนี้

นอกจากเทือกเขาคอเคซัสแล้ว ทบิลิซี (Tbilisi) เมืองหลวงของประเทศที่ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด ด้วยพิกัดที่ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาคั่นด้วยแล้วแม่น้ำมิกวาริ (Mtkvari) ทำให้เมืองนี้โอบล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ความน่าสนใจของเมืองนี้อยู่ที่สถาปัตยกรรมและอาคารบ้านเรือนอันสวยงาม ซึ่งมีความเก่าแก่ ด้วยความที่เป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5 สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่จะเป็นการผสมผสานกันตั้งแต่ยุคกลางจนถึงสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ซึ่งมักจะเน้นโทนสีส้มสดใสแลดูอบอุ่นเป็นเอกลักษณ์เหมาะกับการเดินเล่นถ่ายรูปชิลล์ ๆ

สำหรับใครที่ชอบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จอร์เจีย ก็มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมายให้ได้ไปเยี่ยมชม โดยเฉพาะโบสถ์ของคริสต์ศาสนานิกายออโธดอกซ์ อย่าง โบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์และแลนมาร์กสำคัญของประเทศเลยก็ว่าได้ อีกทั้งตัวโบสถ์ยังตั้งอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำเชเครี (Chkheri) ในเมืองคาสเบกิ สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร ทำให้มองเห็นวิวเทือกเขาคอเคซัสได้อย่างรอบด้าน ทัศนียภาพที่นี่จึงสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจกันเลยที่เดียว นอกจากนี้แล้วยังมี โบสถ์เกอลาติ โบสถ์เก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ที่นี่ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมืองการปกครองมีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ซึ่งอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์และการศึกษาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจอร์เจียภายในมีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูและนักบุญต่าง ๆ

ที่ต่อไปเป็นการไปสัมผัสบรรยากาศชีวิตยุคหินกันที่หมู่บ้าน อัพลิสสิค (Uplistsikhe) เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิกวาริ (Mtkvari) มีอายุมากกว่า 3,000 ปี สันนิษฐานว่าร้างมาตั้งแต่ช่วงต้นของยุคหินเหล็ก ลักษณะของบ้านที่นี่จะสร้างในภูเขาหินโดยการเจาะให้เป็นโพรงทะลุถึงกันสำหรับพักอาศัย มีบันไดและมีถนนหินเป็นส่วนเชื่อมต่อถ้ำแต่ละถ้ำ ภายนอกยังรายรอบไปด้วยเทือกเขาและแม่น้ำนับว่าเป็นสถานที่ unseen ที่ต้องไปเยือนให้ได้

กล่าวมาถึงบรรทัดนี้หวังว่าทุกคนคงอยากไปเยื่อนจอร์เจียสักครั้งกันแล้วใช่ไหม ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากที่เรายังไม่ได้กล่าวถึงและคงจะกล่าวได้ไม่หมด เพราะจอร์เจียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอย่างมากตั้งแต่สถาปัตยกรรมไปจนถึงธรรมชาติและที่สำคัญคือมีควาสวยงามเกินจะบรรยาย เป็นสรวงสวรรค์แห่งใหม่ที่ควรไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

สนับสนุนบทความโดย : unithaitravel.com